ครีมกันแดด เพราะก่อนที่คุณจะออกแดด ไม่ว่าจะเป็นเช้า สาย เที่ยง บ่าย หรือเวลาไหนๆ คุณก็ต้องเผชิญรังสียูวี วันนี้เราจึงมีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับครีมกันแดดมาให้คุณได้ไว้ใช้สำหรับตัดสินใจเลือกซื้อครีมกันแดดที่ดีมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มาฝากค่ะ ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี 1. All day protection ปกป้องผิวได้ทั้งวันจริงหรือ ไม่ว่าบนตัวผลิตภัณฑ์กันแดด จะอ้างคุณสมบัติ ว่าสามาาถปกป้องผิวได้ยาวนาน ตลอดทังวันแค่ไหน แต่ความจริงคือ สิ่งนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ในทางปฏิบัติ เพราะเมื่อครีมกันแดดที่ทาลงไป ได้เจอกับเหงื่อ น้ำมัน หรือของเหลวอื่น ๆ มันก็จะลบเลือน และประสิทธิภาพในการปกป้องผิวก็จะลดลงตามไปด้วย ทางที่ดีจึงควรทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันจะเป็นการปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ดีที่สุด
อาจเพราะขวด Sun screen และ Sun tan วางอยู่ใกล้กันบนชั้นขายของในร้านค้า หลาย ๆ คนจึงอาจสับสนว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่มีเพียง Sun screen เท่านั้นที่ทำหน้าที่กันแดด ป้องกันรังสียูวี ส่วน Sun tan เป็นครีมที่ทาแล้วทำให้ผิวดูดซับรังสียูวีได้มากขึ้น ผิวจึงคล้ำลง หรือที่เรียกว่ามีผิวสีแทน แบบที่บรรดาฝรั่งผิวขาวเขานิยมกันนั่นเอง
เพื่อจะเลือกครีมกันแดด ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในทุก ๆ วันของคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดด ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ (water resistant)มีค่า SPF30 เป็นอย่างต่ำ (และก็ไม่จำเป็นต้องสูงมาก ค่า SPF สูง ไม่ได้หมายความว่าสามารถกันแดดได้ดีกว่า) นอกจากนี้ยังต้องป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบีด้วย (broad-spectrum sunscreen)
ครีมกันแดด ไม่ได้มีแต่เนื้อครีม อย่างที่เราเรียกกัน จนคุ้นปากเท่านั้น มันยังผลิตภัณฑ์กันแดด แบบที่เป็นเนื้อเจล แบบสเปรย์ แบบแท่ง แบบโลชั่น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งาน ต่าง ๆ กันไป เช่น แบบสเปรย์เหมาะกับเด็ก แบบเนื้อเจลเหมาะสำหรับผิวที่มีเส้นขน แบบแท่งเหมาะสำหรับ ทาผิวส่วนที่บอบบาง เช่น รองดวงตา ขณะที่แบบโลชั่นเหมาะสำหรับทุกส่วนของร่างกาย เป็นต้น
ครีมกันแดดที่ยังไม่เปิดใช้งาน จะมีอายุได้ราว 3 ปีนับจากวันผลิต ส่วนครีมกันแดด ที่เปิดใช้งานแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี แต่หากพบว่านเนื้อครีม เปลี่ยนสภาพ มีกลิ่นที่ผิดแปลกไป จากปกติ ก็ไม่ควรนำมาใช้ค่ะ โดยการเสื่อมสภาพ ก่อนหมดอายุนี้สามารถเกิดขึ้นได้ หากผลิตภัณฑ์ถูกเก็บไว้ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
คนส่วนใหญ่คุ้นชิน กับการทาครีมกันแดด เฉพาะพื้นผิวบริเวณกว้าง ๆ และถูกแดดโดยตรง ได้แก่ ใบหน้า แขน และขา แต่ทั้งนี้ ก็ต้องไม่ลืมใส่ใจจุดเล็ก ๆ ที่ถูกแดดลามเลียด้วย เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นต้นคอ อก ใบหู และหลังเท้า เท่านี้ผิวตัว จะได้ไม่ดูด่าง เพราะสีผิวไม่สม่ำเสมอ จากการถูกแสงแดด ไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ
ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี กับ วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด
ถ้าหากอยากจะรู้ว่ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ก่อนอื่นเลยคุณต้องดูค่า SPF ก่อนเลยค่ะว่า ครีมกันแดดยี่ห้อนั้นสามารถป้องกัน UVB ได้กี่เท่า ซึ่งครีมกันแดดที่ดีควรจะป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB สำหรับ UVA นั้น เป็นรังสีที่ทำให้เซลล์ผิวเสียหายจนเป็นรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ยังไม่มีค่ามาตรฐานกำหนด ปัจจุบันจึงนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + เป็นตัวบอก โดยควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า PA++ ขึ้นไป ส่วน UVB นั้น เป็นครีมกันแดดที่ป้องกันอาการแพ้ แดง แสบ และไหม้ของผิวหนัง โดยปกติคนไทยมีผิวคล้ำ ซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 15 ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ
สาว ๆ หลายคนมักจะเลือกใช้ครีมกันแดด SPF สูง ๆ เช่น SPF 50, SPF60 แต่รู้หรือไม่คะว่า บางครั้งสารกันแดด ที่อยู่ในครีมกันแดด ก็อาจไม่ได้มีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร ส่วนผสมในตัวครีมก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน ควรเลือกครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมของ ซิงก์อ๊อกไซด์, ไททาเนียมไดออกไซด์, อโวเบนโซน หรือเม็กโซริล จะดีที่สุด
3. เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน สาว ๆ ออฟฟิศ ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเกินไปหรอกนะคะ เลือกเพียง SPF 15 ก็เพียงพอแล้ว ส่วนคนที่ชอบเล่นกีฬา หรือต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ ทำให้มีเหงื่อออกได้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และกันน้ำได้ (Water Proof หรือ Water Resistance)จะช่วยปกป้องได้ดีกว่า ส่วนสาว ๆ ที่จะลงว่ายน้ำ หรือไปชายทะเล ควรใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไปเช่นกัน และทาซ้ำทุก 1 ชั่วโมง ที่สำคัญ ควรทาครีมก่อนลงน้ำครึ่งชั่วโมงจึงจะได้ผลค่ะ
ขอเพียงมีคุณสมบัติครบแล้วก็ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองก็เพียงพอแล้วค่ะ
5. สีผิวของแต่ละคน สาว ๆ ที่มีผิวขาว ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพราะผิวขาวจะไวต่อการรับแสงแดดมากกว่าคนผิวคล้ำนั่นเอง โดยควรเลือกดังนี้
วิธีทดสอบการแพ้ครีมกันแดด
ประเภทของครีมกันแดด
เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีแสงแดดเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย
เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่สามารถให้ SPF ที่สูงๆ ได้ และเมื่อทาบนผิวหนังแล้ว หน้าจะดูขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย
เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน
ส่วนผสมในครีมกันแดด สามารถแบ่งตามสารออกฤทธิ์ได้ดังนี้ 1. สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ป้องกัน UVA ได้แก่ Oxybenzone, Sulisobenzone, Dioxybenzone, Avobenzone, Merxoryl sx 2. สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ปัองกัน UVB ไ้ด้แก่ Aminobenzoic acid (PABA), Homosalate, Cinoxate, Octyl methoxycinnamate, Octyl salicylate, Padimate O, Phenylbenzimidazole sulfonic acid, Trolamine salicylate, Methyl anthralinate 3. สารออกฤทธิ์กลุ่ม Physical เป็นสารกันแดดที่สะท้อนแสงที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc Oxide |
||