ฟิชไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Fish Hydrolyzed Collagen)
ฟิชไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Fish Hydrolyzed Collagen) คือคอลลาเจนจาก ปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งคอลลาเจนจากปลาทะเลเป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับคอลลาเจนที่มีในร่างกาย มนุษย์ ช่วยชดเชยคอลลาเจนที่ร่างกายสูญเสียไปจากอนุมูลอิสระ แสงแดด ความชรา และการเคลื่อนไหวบนใบหน้า จึงทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นดูตื้นขึ้น นำความยืดหยุ่นกลับมาให้ผิวอีกครั้ง นอกจากผิวหนังแล้ว คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบของกระดูก เล็บ รวมถึงผมด้วย
คอลลาเจนคืออะไร
คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย มีปริมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย โครงสร้างโมเลกุลมีลักษณะเป็นเส้นเอ็นแข็งแรงและแผ่กว้าง มีความยืดหยุ่นซึ่งจะช่วยค้ำจุนผิวหนังและอวัยวะภายในไว้ กระดูกและฟันมาจากการรวมกันของ Mineral Crystals และคอลลาเจน คอลลาเจนเป็นโครงสร้างของร่างกาย ช่วยป้องกันและค้ำจุนเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน และจุดเชื่อมต่อกับโครงกระดูก
คอลลาเจน พบได้โดยทั่วไปของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กล้ามเนื้อ เอ็นข้อต่อและกระดูก เส้นใยคอลลาเจนจะสานกันเหมือนเส้นใยที่ถักทอกันเป็นเนื้อผ้า และจะเป็นโครงร่างแหที่เซลล์ใหม่ๆจะเจริญเติบโตได้ ในผิวหนัง คอลลาเจนจะเป็นเนื้อหนังที่ให้ความยืดหยุ่นของโครงร่าง คอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์มีลักษณะเหมือนกับคอลลาเจนที่พบในสัตว์ จึงเป็นเหตุผลที่มนุษย์สามารถใช้คอลลาเจนจากสัตว์ได้
คอลลาเจน ชนิดต่างๆในร่างกาย
คอลลาเจนเป็นสารที่อยู่ทุกที่ในร่างกายเรา เป็นเส้นใยในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันนี้เป็นร่างกายและอวัยวะภายในของเรา เพื่อให้เข้าใจและเห็นความสำคัญของคอลลาเจน รายการต่อไปนี้เป็นชนิดของคอลลาเจนซึ่งถูกรวบรวมไว้เป็น 5 กลุ่ม จากคอลลาเจนมากกว่า 19 ชนิด ว่าถูกใช้งานอย่างไรในร่างกายคนเรา
กลุ่ม 1 เกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิวหนัง กระดูก ฟัน เอ็นข้อต่อ ส่วนห่อหุ้มอวัยวะ
กลุ่ม 2 เป็นข้อต่อกระดูกอ่อน
กลุ่ม 3 เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของอวัยวะ (ตับ ม้าม ไต และอื่นๆ)
กลุ่ม 4 การแบ่งชั้นระหว่างเซลล์ epithelial และ เซลล์ endothelial เช่นเดียวกันกับโครงกระดูกกับเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ กลุ่มไต lens capsule และ Schwann กับเนื้อเยื่อประสาทส่วนกลางของระบบประสาท
การสูญเสียคอลลาเจน
ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายคนเราจะสูญเสียคอลลาเจนไป 1.5 % ทุกๆ ปี (เช่นอายุ 35 ปีจะสูญสลายไป 15 % อายุ 45 ปีจะสูญสลายไป 30 % เป็นต้น) เมื่อคนเรายิ้ม ขมวดคิ้ว หรี่ตาหรือกะพริบตา จึงมีริ้วรอยปรากฏบนใบหน้า ชั้นผิวคอลลาเจนนอกจากจะเปลี่ยนไปตามอายุแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก คือ สิ่งแวดล้อมและพันธุกรรม ในผู้สูงอายุกล้ามเนื้อจะเริ่มอ่อนแอและบาดเจ็บได้เมื่อล้ม เนื่องจากกล้ามเนื้อไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดี อัตราการเสียหายของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นร้อยละ 1 ต่อปีกล้ามเนื้อของผู้หญิง เช่นเดียวกับกระดูก โดยทั่วไปมีลักษณะเล็กกว่าของผู้ชาย คอลลาเจนจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในข้อแตกต่างนี้ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนถูกผลิตขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปในแต่ละปี
คอลลาเจนกับผิวหนัง
คอลลาเจนคือเส้นใยโปรตีน เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูกอ่อน กระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวกันต่างๆ คอลลาเจนเป็น ส่วนประกอบหลักของเครือข่ายชั้นผิวหนัง มากกว่า 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คือคอลลาเจน จัดเป็นจำนวนที่สูงมากและเป็น 70 % ของผิวหนังคนเรา
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ผิวหนังประกอบด้วยชั้นผิว 3 ชั้น ชั้นแรก คือ หนังกำพร้าเป็นหนังส่วนที่อยู่นอกสุดของชั้นผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์ที่เรียกว่า epithelial cells ชั้นถัดมา คือ ชั้นที่อยู่ต่ำกว่าชั้นหนังกำพร้าลงไป ประกอบด้วยเส้นเลือด ต่อมน้ำเหลือง ต่อมเหงื่อ ต่อมขนและต่อมไขมัน เป็นต่อมที่ผลิตไขมันเพื่อป้องกันแบคทีเรีย ชั้นที่สามเป็นชั้นที่สนับสนุนการทำงานของชั้นเนื้อเยื่อไขมัน
ผิวหนังจะยังคงความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นตราบเท่าที่ยังคงรักษาความชุ่มชื้น ได้มากกว่า 10 % ถ้าผิวหนังแห้งมากจะมีลักษณะบวมแดง อักเสบ ผิวหนังชั้นหนอกจะมีลักษณะหยาบ เปราะบาง ไม่สดใส จึงต้องใช้โลชันและครีมบำรุงผิวเป็นตัวช่วยในการรักษา ความชุ่มชื้น ในชั้นที่ต่ำกว่าชั้นผิวหนังชั้นนอกสุดจะเสื่อมสภาพไปตามอายุ ซึ่งไม่ใช่ขาดเฉพาะความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลดลงของ Polypeptides เช่น Elastin และคอลลาเจน
คอลลาเจน กับ โรคข้อต่อต่างๆ
90 % ของการสร้างกระดูก คือ คอลลาเจนโรคกระดูกพรุน คือ โรคข้อที่แสดงความรุนแรงขึ้น แสดงถึงภาวการณ์เสื่อมโทรมลงของข้อต่อกระดูกอ่อน (เนื้อเยื่อเกี่ยวพันขาดความยืดหยุ่น แข็ง) ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของข้อต่อ ทำให้เจ็บปวดและเสียการทรงตัว ความเสื่อมของข้อต่ออาจจะมาจากธรรมชาติและเสื่อมลงตามอายุขัย น้ำหนักเกินหรืออ้วนมากเกินไป ความรุนแรงที่กดทับกระดูกอ่อน ความผิดปรกติของข้อต่อหรือเส้นเอ็น และการติดเชื้อหรือการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท
ทำไม คอลลาเจนไฮโดรไลเสท จึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรงกระดูกพรุน
นักวิจัยแนะนำว่า คอลลาเจนไฮโดรไลเสท สามารถกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งมีความสำคัญในการคงสุขภาพที่ดีของข้อต่อไว้ อีกทั้ง คอลลาเจนไฮโดรไลเสทสามารถถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วในลำไส้เล็ก โดยปริมาณสารอาหารสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
นักวิจัยพบว่าคอลลาเจนไฮโดรไลเสทที่มีอยู่ในเซลล์เพาะเลี้ยง สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคอลลาเจนที่เกิดขึ้นโดยเซลล์ธรรมชาติ จะไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดผลดังกล่าวได้ เช่นเดียวกับในเนื้อเยื่อค้ำจุน แสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนไฮโดรไลเสทสมารถลดการเสื่อมของเนื้อเยื่อข้อต่อได้
คอลลาเจน ช่วยในเรื่อง เอ็นและข้อต่อ
ส่วนประกอบประมาณ 80 % ของเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกกับกระดูก) และเส้นเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกและกล้ามเนื้อ) คือคอลลาเจน ที่เหลือคือ proteoglucans และ fibroblast
โดยปกติ สมรรถภาพของเข่าที่ลดลงมีสาเหตุมาจากกระดูกอ่อนในข้อต่อหัวเข่าหมดไป ทำให้กระดูกเสียดสีกัน จุดประสงค์ท้ายสุดของคอลลาเจนที่ต้องการคือ การหยุดการเสียดสีดังกล่าวและสร้างกระดูกอ่อนเข่าขึ้นมาใหม่ กรดอะมิโนในคอลลาเจนไฮโดรไลเสท จะถูกนำมาสร้างเป็นกระดูกอ่อน ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและข้อต่อที่ยืดหยุ่น
คอลลาเจน กับการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
เส้นเลือดแดงที่ปกติจะมีลักษณะดังที่เห็นในรูป สังเกตได้ว่า
เส้นเลือดแดงจะไม่มีสารสะสมบนผิว ชั้นคอลลาเจนและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อจะไม่เสื่อมสภาพ ไม่เปลี่ยนแปลงและแข็งแรงมาก จุดประสงค์ที่มีชั้นคอลลาเจนก็เพื่อป้องกันเส้นเลือดแดงแตกหัก เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆชั้นคอลลาเจนจะเป็นตัว ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดเป็นไปด้วยดี
การเกิดโรคหัวใจ
ทันทีที่มีสารสะสมขึ้นที่ผิวของเส้นเลือดแดง นั่นก็คือ การเริ่มต้นของการเป็นโรคหัวใจแล้ว สาเหตุมาจากคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอ
คอลลาเจนที่อยู่รายรอบเส้นเลือดแดงจะคอยป้องกันเส้นเลือดไว้ เมื่อเส้นเลือดเริ่มสูญเสียคอลลาเจน จะปรากฏบาดแผลและรอยแตกหักเล็กๆ เมื่ออาการเหล่านี้ปรากฏชัดขั้น ร่างกายเราจะรู้เองว่า นี่เป็นปัญหาและจะทำการซ่อมแซมตัวเองโดยเร่งด่วน ถ้าเส้นเลือดอ่อนแอเนื่องจากขาดคอลลาเจน จะปรากฏรอยแตกหักและบาดแผล ร่างกายจะประสานแผลด้วยเกล็ดจาก Lipoprotein เกล็ดสารนี้เป็นสารที่มีความเหนียว เป็นพวกโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL- low density lipoproteins) นั่นก็คือ คอเลสเตอรอล ทุกครั้งที่ปรากฏรอยแตกขึ้นที่ผิวเส้นเลือดแดง ร่างกายจะใช้เกล็ดสารจาก Lipoprotein มาสมานและป้องกันเส้นเลือดแดง แต่นั้นก็จะทำให้การไหลเวียนของเส้นเลือดแดงอยู่ในวงจำกัดด้วย คุณก็จะเริ่มเป็นโรคหัวใจ
การรับประทานคอลลาเจน
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน 1-3 ช้อนชา ละลายในเครื่องดื่มที่มีวิตามินซี เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือน้ำผลไม้ต่างๆ เพราะวิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ควรรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ หรือนำไปผสมกับอาหารรับประทาน ร่างกายจะต้องได้รับคอลลาเจนเป็นจำนวน 10 กรัม อย่างน้อย 3 เดือน จึงจะเห็นผลเพราะว่าคอลลาเจนมีการสลายและสร้างใหม่ได้ แต่ถ้าหยุดกินคอลลาเจนเลย อาการจะเกิดอย่างช้าๆ
เรียนรู้เรื่อง “คอลลาเจน”
ผู้หญิงสมัยใหม่ ไม่มีใครไม่รู้จักคอลลาเจนที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวพรรณเต่งตึง แต่เมื่ออายุที่มากขึ้น คอลลาเจนที่ อยู่ใต้ผิวหนังก็ลดลงตามลำดับ การยิ้ม ขมวดคิ้ว หรี่ตา หรือเครียด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวเสื่อมสภาพ ผลที่ตามมาก็คือ ริ้วรอย และรอยตีนกาบนใบหน้า
ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด มลพิษต่างๆ บุหรี่ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไป และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่งผลต่อผิวในชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ ที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอีลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวพรรณเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และควบคุมความชุ่มชื้น เมื่อถูกทำลายให้บางลง และด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระหว่างการผลิต และการสลายตัวของคอลลาเจนตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหน้าหย่อนคล้อย และหยาบกระด้าง ดังนั้น วิธีที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์นั้น ก็คือการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว
การเพิ่มคอลลาเจนก็มีหลากหลายวิธี ดังนี้
1. การเติมคอลลาเจน และอีลาสตินที่ขาดหายไปจากเซลล์ผิว ตามธรรมชาติแล้ว
คอลลาเจนและอีลาสติน จะเริ่มเสื่อมลงเมื่ออายุ 25-30 ปี ปัจจุบันมีการค้นคว้าเพื่อหาแหล่งธรรมชาติที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนที่ขาดหาย ไป เพราะผิวที่มีคอลลาเจนที่แข็งแรง จะเป็นผิวที่เปล่งปลั่ง เนียนใส คอลลาเจน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ไม่สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม
2. การรับประทานอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ
สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากธรรมชาติ จะช่วยกำจัดตัวการสร้างอนุมูลอิสระได้หมดไป และไม่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ซึ่งได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี สารเหล่านี้เป็นสารที่มีประสิทธิภาพ สูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน
3. การรักษาความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว
การสูญเสียความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว ทำให้เกิดความหยาบกร้านและริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นชนิดพิเศษ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่ามอยซ์เจอไรเซอร์ทั่วไป จะสังเกตได้จากส่วนผสมที่ประกอบด้วย ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน, ไฮโดรไลซ์ อีลาสติน, โปรคอลลาเจน, เอเอชเอ เป็นต้น